ประวัติวิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม
History of Mahasarakham Vocational College
ประวัติความเป็นมา
วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคามจัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2479 ตามความคิดเห็นหลวงอังคณานุรักษ์ ข้าหลวงประจำจังหวัดมหาสารคามในสมัยนั้น เดิมชื่อ “โรงเรียนประถมอาชีพช่างปั้นอำเภอเมืองมหาสารคาม” รับนักเรียนที่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เข้าเรียนหลักสูตร 2 ปี มีนายเที่ยง ภวภูตานนท์ เป็นครูใหญ่ ต่อมาได้เปิดสอนอีก 2 แผนกวิชา คือ แผนกช่างจักสานและแผนกช่างเย็บเสื้อผ้า เรียกว่าประโยคอาชีวศึกษาเบื้องต้น หลักสูตร 2 ปี
พ.ศ. 2480 ยกฐานะเป็นโรงเรียนรัฐบาล สังกัดกรมวิชาการ
พ.ศ. 2482 ย้ายแผนกช่างจักสานและแผนกช่างปั้นไปรวมกับแผนกช่างไม้ที่โรงเรียนการช่างมหาสารคาม (วิทยาลัยเทคนิคมหาสารคาม ในปัจจุบัน) เหลือเฉพาะแผนกช่างเย็บผ้า และได้เปิดแผนกช่างทอผ้าเพิ่มขึ้น เปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น “โรงเรียนช่างเย็บเสื้อผ้ามหาสารคาม” มีนายอุ่น ภวภูตานนท์ เป็นครูใหญ่
พ.ศ. 2494 ขยายเป็นหลักสูตร 3 ปี เรียก “ประโยคอาชีวศึกษาชั้นกลาง“ ยุบแผนกช่างทอผ้า เนื่องจากไม่อยู่ในความนิยมของท้องถิ่นสมัยนั้น และเปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนการช่างสตรีมหาสารคาม” มีนางมะลิ หนโชติ เป็นครูใหญ่
พ.ศ. 2500 เปิดสอนระดับอาชีวศึกษาชั้นสูง หลักสูตร 3 ปี 2 แผนกวิชา คือ แผนกวิชาผ้าและเครื่องแต่งกาย และแผนกวิชาอาหารและโภชนาการ รับนักเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เข้าเรียน เมื่อสำเร็จการศึกษาจะได้รับ “ประกาศนียบัตรประโยคอาชีวศึกษาชั้นสูง”
พ.ศ. 2507 โรงเรียนเข้าโครงการยูนิเชฟ เปิดสอนแผนกวิชาคหกรรมศาสตร์ แผนกวิชาอาหารและโภชนาการ และแผนกวิชาศิลปหัตถกรรม (ช่างเคลือบดินเผา) และได้เปลี่ยนชื่อใหม่ เป็น “โรงเรียนอาชีวศึกษามหาสารคาม”
1 ตุลาคม พ.ศ. 2519 รวมกับโรงเรียนการช่างมหาสารคาม ยกฐานะเป็นวิทยาลัยและเปลี่ยนชื่อเป็น “วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคามวิทยาเขต 2” ต่อมาเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2522 แยกวิทยาเขต และใช้ชื่อว่า “วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม” มาจนถึงปัจจุบัน
พ.ศ. 2523 แผนกวิชาศิลปหัตถกรรม เปลี่ยนชื่อเป็นแผนกวิชาศิลปกรรม เปิดสอนเฉพาะสาขาวิชาวิจิตรศิลป์
พ.ศ. 2524 เปิดสอนสาขาวิชาการบัญชี
พ.ศ. 2530 เปิดสอนสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ระดับปวท.(ประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค) และ ปวส.(ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง)
พ.ศ. 2536 เปิดสอนสาขาวิชาการประชาสัมพันธ์
พ.ศ. 2537 เปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรครูเทคนิคชั้นสูง(ปทส.) สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ซึ่งเป็นหลักสูตรเทียบเท่าปริญญาตรี โดยรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับ ปวส. สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ และเปิดสอนสาขางานการเลขานุการ
พ.ศ. 2546 จัดตั้ง 2 คณะวิชาใหม่ คือ คณะวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และคณะวิชาอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว โดยได้เปิดสอน 3 สาขาวิชาใหม่ คือ สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ระดับ ปวส. สาขาวิชาการโรงแรมและบริการ ระดับ ปวส. ระบบทวิภาคี และสาขาวิชาคอมพิวเตอร์กราฟิก ระดับ ปวช.
พ.ศ. 2548 เปิดสอนสาขาวิชาการเงินและการธนาคาร ระดับ ปวส.
พ.ศ. 2549 เปิดสอนสาขาวิชาคอมพิวเตอร์กราฟิก ระดับ ปวส.
พ.ศ. 2550 ปรับโครงสร้างการบริหารสถานศึกษา ตามระเบียบการบริหารสถานศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พ.ศ. 2549 โดยยกเลิกคณะวิชา และมีการยุบรวม/แยกแผนกวิชาต่าง ๆ เพื่อจัดตั้งเป็นแผนกวิชาใหม่ ดังนี้
- ยุบรวมแผนกวิชาสามัญและแผนกวิชาสัมพันธ์ แล้วจัดตั้งเป็นแผนกวิชาสามัญสัมพันธ์
- แยกแผนกวิชาผ้าและเครื่องแต่งกาย แล้วจัดตั้งเป็น 3 แผนกวิชาใหม่ คือ แผนกวิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกาย แผนกวิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม และแผนกวิชาเทคโนโลยีออกแบบเครื่องแต่งกาย ตามลำดับ
- จัดตั้ง 2 แผนกวิชาใหม่ คือ แผนกวิชาเสริมสวย และ แผนกวิชาอุตสาหกรรมอาหาร
- เปลี่ยนชื่อแผนกวิชาการเลขานุการเป็นแผนกวิชาการจัดการทั่วไป
ต่อมามีการปรับโครงสร้างการบริหารสถานศึกษาใหม่ ตามระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาว่าด้วยการบริหารสถานศึกษา พ.ศ. 2552 จนถึงปัจจุบัน
พ.ศ. 2556 เปิดสอนระดับปริญญาตรีหลักสูตรเทคโนโลยีสายปฏิบัติการ สาขาวิชาการบัญชี
พ.ศ. 2557 เปิดสอนระดับปริญญาตรีหลักสูตรเทคโนโลยีสายปฏิบัติการ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
พ.ศ. 2562 เปิดสอนระดับปริญญาตรีหลักสูตรเทคโนโลยีสายปฏิบัติการ สาขาวิชาการตลาด
พ.ศ. 2563 เปิดสอนระดับปริญญาตรีหลักสูตรเทคโนโลยีสายปฏิบัติการ สาขาวิชาการจัดการสำนักงาน และสาขาวิชาดิจิทัลกราฟิก
พ.ศ. 2565 เปลี่ยนชื่อภาควิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ เป็น ภาควิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล
พ.ศ. 2566 มีการปรับปรุงเพิ่มเติมโครงสร้างการบริหารสถานศึกษาตามระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาว่าด้วยการบริหารสถานศึกษา(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 เพื่อให้มีความสอดคล้องกับกฎกระทรวงการรวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาเพื่อการจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษา พ.ศ. 2555 โดยมีการเพิ่มเติม ภาควิชา และ งานพัฒนาหลักสูตรสายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการ อยู่ในสังกัดของแต่ละภาควิชา จำนวน 5 ภาควิชา ได้แก่ ภาควิชาการบัญชี ภาควิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล ภาควิชาการตลาด ภาควิชาการจัดการสำนักงาน และ ภาควิชาดิจิทัลกราฟิก ตามลำดับ
ตราประจำวิทยาลัย
ตราประจําวิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม
ตราวิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม เป็นรูปเสมาธรรมจักรมีวงล้อม และมี 4 ตัวอักษรที่สําคัญยิ่ง คือ ทุ ส นิ ม ที่ปรากฎบนตราประจำวิทยาลัย มีที่มาจากหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ที่ได้แสดงธรรมเปิดทางให้พิสูจน์ได้ว่าเป็นสัจจะ คือ “อริยสัจ 4″ แปลว่า ความจริงอันประเสริฐ ความจริงของพระอริยบุคคล หรือความจริงที่ทำให้ผู้เข้าถึงกลายเป็นอริยะ มีอยู่สี่ประการด้วยกัน คือ ทุกข์(สภาพที่ทนได้ยาก) สมุทัย(สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์) นิโรธ(ความดับทุกข์) มรรค(แนวปฏิบัติที่นำไปสู่ความดับทุกข์) นั่นเอง
ปรัชญาวิทยาลัย
ปรัชญาวิทยาลัย(Philosophy)
ทักษะเยี่ยม เปี่ยมความรู้ คู่คุณธรรม นําวิถีชีวิตอย่างพอเพียง
อัตลักษณ์(Identity)
มีคุณธรรม นำเทคโนโลยี รู้จริง ทำได้ บนพื้นฐานความพอเพียง
คุณธรรมอัตลักษณ์(Moral Identity)
รับผิดชอบ สามัคคี มีวินัย
เอกลักษณ์(Unique)
จิตอาสา รักษาวัฒนธรรม น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ค่านิยม(Values)
สังคมแห่งการเรียนรู้ คิดสร้างสรรค์ ยึดมั่นหลักธรรมาภิบาล
นโยบายการพัฒนาสถานศึกษา
สถาบันแห่งการบูรณาการ ผสานองค์ความรู้ สู่การสร้างนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
วิสัยทัศน์ (Vision)
ผลิตและพัฒนากำลังคนด้านอาชีวศึกษาที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน
สร้างสรรค์นวัตกรรมสู่สากลภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
พันธกิจ (Mission)
1. ผลิตและพัฒนากำลังคนด้านอาชีวศึกษาให้ได้มาตรฐานทุกระดับ
มีศักยภาพตรงตามความต้องการของประเทศ
2. ส่งเสริมงานวิจัย นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ และบริการวิชาชีพเพื่อพัฒนา
รากฐานองค์ความรู้สนับสนุนต่อการพัฒนาประเทศ
3. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการพัฒนามาตรฐานการจัดการอาชีวศึกษาของสถานศึกษา
4. พัฒนาระบบบริหารจัดการและองค์กรคุณภาพตามหลักธรรมาภิบาลอย่างยั่งยืน
ประเด็นยุทธศาสตร์
1. ผลิตและพัฒนาสมรรถนะกำลังคนด้านวิชาชีพตรงตามความต้องการของประเทศ
2. วิจัย นวัตกรรม และสิ่งประดิษฐ์ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
3. ส่งเสริมการให้บริการวิชาชีพเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต
4. ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการจัดการอาชีวศึกษา
5. ส่งเสริมการพัฒนาระบบบริหารจัดการสถานศึกษาคุณภาพอย่างยั่งยืน
เป้าประสงค์
1. เพื่อพัฒนาการศึกษาด้านอาชีวศึกษาให้ตรงตามมาตรฐานการอาชีวศึกษาและกอปรด้วยคุณธรรม
2. เพื่อบริหารจัดการอาชีวศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
และนโยบายสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ตลอดจนนโยบายของชาติ
3. เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาด้านวิชาการ วิชาชีพ และการบริการชุมชน
4. ส่งเสริมการพัฒนาระบบและกลไกการประกันคุณภาพทางการศึกษาทั้งภายในและภายนอก
5. เพื่อเสริมสร้างและปลูกฝังให้มีจิตสำนึกในการทำนุบำรุงศาสนา ศิลปวัฒนธรรม อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
และส่งเสริมสุขภาพอนามัยที่ดีแก่บุคลากร
สีประจำวิทยาลัย
สีทางราชการวิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม คือ แดง-น้ําเงิน
แดงเลือดหมู หมายถึง ความเสียสละ ความกล้าหาญ ความกล้าที่จะคิด กล้าสู้ต่ออุปสรรคต่างๆ
น้ําเงิน หมายถึง ความหนักแน่น มีใจอดทน สุขุม รอบคอบ ริเริ่ม สร้างสรรค์
แดง-น้ำเงิน จึงมีความหมายว่า ชาวอาชีวศึกษามหาสารคาม ต้องมีความกล้าหาญ กล้าคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ อย่างสุขุม รอบคอบ
กล้าต่อสู้อุปสรรคทั้งปวงอย่างหนักแน่น อดทน ด้วยความเสียสละ เพื่อรักษาไว้ซึ่ง ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
มาร์ชวิทยาลัย
MVC Team Work
MVC Team Work หมายถึง บุคลากรวิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคามที่ปฏิบัติตนเป็นทีมงานที่ดี(Good Team Work)
มีความเป็นมืออาชีพในการปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบทีมกัลยาณมิตร(Good Friends Teamwork)
มีจิตช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ร่วมแรงร่วมใจกันอย่างมุ่งมั่น ทุ่มเท และปฏิบัติหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มศักยภาพ
เพื่อบรรลุซึ่งเป้าหมายเดียวกันอย่างมีคุณภาพและภาคภูมิใจในความสำเร็จร่วมกัน
คุณธรรมประจำใจ
คุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ ของนักเรียน นักศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม
1. ความขยัน หมายถึง ความตั้งใจ เพียรพยายาม ในการทําสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ถูกที่ควรด้วยใจรัก อย่างแข็งขัน จริงจัง ไม่ท้อถอย ไม่เกียจคร้าน ไม่ปล่อยปละละเลย กล้าเผชิญกับอุปสรรค และทําหรือ ประพฤติเป็นปกติสม่ําเสมอ
2. ความประหยัด หมายถึง การรู้จักยับยั้งชั่งใจ ระมัดระวังในการใช้จ่ายแต่พอควรกับฐานะ ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่ฟุ้งเฟื้อ รู้จักคิดก่อนใช้หรือจ่าย รู้จักเก็บออม รู้จักใช้ทรัพย์สินสิ่งของอย่างถนอมให้เกิด ประโยชน์คุ้มค่า
3. ความซื่อสัตย์ หมายถึง ความประพฤติตรงและจริงใจ ไม่คิดคดทรยศ ไม่คดโกง และไม่โกหก หลอกลวง ไม่หยิบฉวยของคนอื่นมาเป็นของตนเองโดยไม่บอกกล่าว
4. ความมีวินัย หมายถึง การยึดมั่นและปฏิบัติตนในขอบเขตข้อตกลง ข้อบังคับ ข้อปฏิบัติ กฎ ระเบียบ แบบแผนของสังคม สถานศึกษา ห้องเรียน กลุ่มด้วยความเต็มใจ ซึ่งมีทั้งวินัยในตนเองและ วินัยต่อสังคม
5. ความสุภาพ หมายถึง การมีกริยามารยาททางกาย วาจา ที่เรียบร้อย อ่อนโยน ละมุนละม่อม อ่อนน้อมถ่อมตน มีสัมมาคารวะ เหมาะกับบุคคลและกาลเทศะ
6. ความสะอาด หมายถึง ความไม่สกปรก ไม่เลอะ ความหมดจด ผ่องใส ความบริสุทธิ์ เป็น ที่เจริญตา และก่อให้เกิดความสบายใจแก่ผู้พบเห็น ในที่นี้หมายถึง ความสะอาดของร่างกาย สิ่งของ เครื่องใช้ ที่อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อมตามสุขลักษณะ
7. ความสามัคคี หมายถึง ความพร้อมเพรียง ปรองดอง ความกลมเกลียว ความร่วมมือร่วมใจ กัน ปฏิบัติงานให้บรรลุผลตามต้องการ เกิดงานอย่างสร้างสรรค์ โดยปราศจากการทะเลาะวิวาท เอารัดเอาเปรียบกัน เปิดใจกว้างรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นอย่างมีเหตุผล รู้บทบาทของตนทั้งใน ฐานะผู้นําและผู้ตามที่ดี พร้อมที่จะ ปรับตัวเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
8. ความมีน้ําใจ หมายถึง นิสัยใจคอที่มีความจริงใจ เอื้อเฟื้อ ไม่เห็นแก่ตัว เห็นอกเห็นใจ และ เห็นคุณค่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน มีความเอื้ออาทร เอาใจใส่ ให้ความสนใจในความต้องการ ความจําเป็น ความทุกข์สุขของผู้อื่นรู้จักแบ่งปัน เสียสละความสุขส่วนตนให้กับผู้อื่น และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ เกื้อกูลกันและกัน
แผนผังอาคารวิทยาลัย
แผนผังวิทยาลัยแบบ 3D Animation
แผนผังวิทยาลัยแบบ 2D
ผังระบบเครือข่ายวิทยาลัย